
โคเวิร์คกิ้งสเปซจะเปลี่ยนอนาคตของการทำงานได้อย่างไร
คุณวิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป จัสโค ประเทศไทย
การทำงานและสถานที่ทำงานในอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร วิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป จัสโค ประเทศไทย ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับโคเวิร์คกิ้งสเปซอย่างแบรนด์จัสโคว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของการทำงานได้มากน้อยแค่ไหน ในงาน HRD Talks ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของคณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ดังนี้
วิสัยทัศน์ของจัสโคที่มีต่ออนาคตของการทำงาน
ในหลายเดือนที่ผ่านมา การทำงานนอกออฟฟิศกลายมาเป็นวิถีการทำงานแบบใหม่ เกือบทุกบริษัทต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และ “นิวนอร์มอล” นี้เองทำให้จัสโคมองเห็นอนาคตของการทำงานว่าจะต้องเป็นสถานที่ที่มอบความยืดหยุ่นอย่างสูงสุด พร้อมต้องมีเกราะป้องกันให้กับบริษัทในอนาคต และมีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ความต้องการใช้พื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นไม่จำกัดเฉพาะในองค์กรที่ต้องการแผนสำรองในยามฉุกเฉินหรือพื้นที่ชั่วคราวในระยะสั้นๆ อีกต่อไป แต่กลายมาเป็นโซลูชั่นหลักด้านอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากความคุ้มค่าในเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ นอกเหนือไปจากค่าใช้จ่ายหลักในการจ้างพนักงานแล้ว องค์กรยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเช่าหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งถือเป็นภาระหลักอีกด้วย
โรคโควิด-19 ยังทำให้เราหันมาให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์และพบปะติดต่อกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำงาน ความร่วมมือร่วมใจและประสิทธิภาพในการทำงานจะสำเร็จได้เมื่อทีมได้มาอยู่ร่วมกัน ความหลากหลายของผู้คน การติดต่อประสานงาน วัฒนธรรม และความเป็นธรรมชาติในที่ทำงานเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้ ในขณะที่รูปแบบธุรกิจของโคเวิร์คกิ้งยังคงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ ที่จะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือ พบปะและติดต่อ ก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ โอกาสในการสร้างความร่วมมือ และอีกมากมาย
พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างให้การทำงานดียิ่งขึ้น
จัสโคมุ่งสร้างโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการให้บริการด้านพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นและโปรแกรมบริการสมาชิกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เรามองว่าพื้นที่ทำงานควรเป็นมากกว่านั้น โดยได้มุ่งสร้าง “อนาคตของที่ทำงาน” ด้วยการออกแบบพื้นที่ทำงานอัจริยะ ที่จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานและเพิ่มความร่วมมือกันในหมู่สมาชิก
ยกตัวอย่าง แอพลิเคชั่น JustCo App ช่วยอำนวยความสะดวกให้สมาชิกได้ทำความรู้จักและติดต่อกันทางธุรกิจ สมาชิกของจัสโคยังสามารถใช้แอพฯ ซึ่งเป็นเสมือนพาสปอร์ตในการเข้าใช้งานในสาขาต่างๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิก หรือทำการจองและปลดล็อคห้องประชุม ลงทะเบียนเข้าร่วมงานและกิจกรรม รับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตร และรับข่าวสารต่างๆ จากจัสโค รวมไปถึงการติดตามและเสนอแนะบริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
นอกจากนี้แล้ว สมาชิกยังสามารถได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ Just Connect บนจัสโคแอพฯ เพื่อแสดงโปรไฟล์บริษัทและสามารถขอติดต่อกับสมาชิกท่านอื่นๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงความร่วมมือที่สัมฤทธิ์ผลในหมู่สมาชิกผ่านแอพลิเคชั่น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จัสโคมุ่งมั่นและพยายามมาตลอดเพื่อสมาชิก นอกจากนี้สมาชิกยังสามารถรับข่าวสารและเข้าร่วมอีเว้นท์และการสัมมนาผ่านทางออนไลน์ต่างๆ ที่จัดขึ้นประจำโดยจัสโค รวมไปถึงการรับสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจจากพันธมิตรของจัสโค เช่น Amazon Web Services, Fitness First, Thai Smile ฯลฯ รวมไปถึงการซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพฯ ด้วย
จัสโคยังเปิดตัว JustCo Campus โรงเรียนออนไลน์ไฮบริด ที่ช่วยเพิ่มการติดต่อกันระหว่างธุรกิจที่ขยายวงกว้างไปทั่วเอเชียแปซิฟิก การเป็นสมาชิก Just Campus จะมอบโอกาสในการเรียนรู้ทางธุรกิจผ่านคลาสเรียน ต่างๆ การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพ การเข้าร่วมเวิร์คช้อป และการร่วมกิจกรรมเสวนาต่างๆ ทั้งแบบออนไลน์และในสถานที่จริง ก่อให้เกิดการติดต่อสัมพันธ์ผ่านการเข้าร่วมอีเว้นท์ต่างๆ เช่น Power Breakfast และ Power Lunch เพื่อพบปะกับผู้บริหารนักคิด เจ้าของกิจการที่มีอำนาจตัดสินใจ และคู่ธุรกิจในอนาคต เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และก่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ แพลตฟอร์มทางออนไลน์เช่นนี้จะช่วยให้สมาชิกได้รับประโยชน์ทั้งจากการพบปะติดต่อและการเข้าร่วมงานที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย และขยายเน็ตเวิร์คไปยังต่างประเทศโดยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง
จัสโคในยุคนิวนอร์มอลพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตของการทำงาน
ในขณะที่ธุรกิจเดินหน้าสู่ยุค “นิวนอร์มอล” จัสโคเองก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งนี้องค์กรต่างๆ เริ่มมีความต้องการใช้พื้นที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นอย่างสูงสุด เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับทุกสถานการณ์ โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ดังนั้น พื้นที่ทำงานที่พร้อมใช้งานของจัสโคยังคงเดินหน้าตอบรับความต้องการในการใช้งานทั้งจากกลุ่มสตาร์ทอัพและองค์กรต่างๆ ซึ่งคำนึงถึงความยืดหยุ่นเป็นปัจจัยหลัก เพื่อตอบรับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
จัสโคมีความตั้งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับพื้นที่ทำงานอัจฉริยะด้วยดิจิตอล ที่สามารถสร้างประสบการณ์ในการทำงานให้ผู้ทำงานผ่านบริการต่างๆ ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และอำนวยความสะดวกให้คนติดต่อกันอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นทั้งนี้ ธุรกิจที่จะสามารถอยู่รอด ขยายตัว และประสบความสำเร็จในระยะยาวในยุคนี้จะต้องมีนวัตกรรม พัฒนาไปสู่โลกดิจิตอล และพร้อมเดินไปข้างหน้าอยู่เสมอ